ศาสตราจารย์จีนที่มาทำงานในมหาวิทยาลัยรัฐเทกซัส แอบลักลอบส่งชิพ ให้บริษัทหัวเหว่ย
แอบลักลอบส่งชิพ เป็นเหตุการณ์ที่น่าสนใจไม่น้อย หลังจากที่ทางบริษัทหัวเหว่ยได้ถูกทางรัฐบาลสหรัฐสั่งห้ามทำธุรกิจใดๆ กับประเทศจนทำให้พวกเขาเจอผลกระทบในเรื่องการผลิตสินค้า เนื่องจากชิ้นส่วนเทคโนโยลีหลายชิ้นนั้นได้ทำการผลิตที่ประเทศจากฝั่งตะวันตกก่อนจะถูกนำไปประกอบในประเทศจีนนั่นเอง จนกระทั่งมีข่าวออกมาว่าทางศาสตราจารย์ที่ต้องเดินทางมาทำงานในมหาวิทยาลัยรัฐเทกซัสได้แอบช่วยให้บริษัทในประเทศของตัวเองเพื่อลักลอบนำชิพมาให้พวกเขานำไปผลิตได้อีกด้วย แอบลักลอบส่งชิพ ที่ทางหัวเหว่ยออกมาปฏิเสธ และคงจะตั้งใจผลิตชิพเป็นของตัวเองออกมามากกว่าจะพยายามลักลอบใช้ สิ่งที่ทำให้หัวเหว่ยต้องยกที่นั่งลำบากในการขายระดับโลกนั้นก็คือข้อกล่าวหาที่แอบนำข้อมูลผู้ใช้ในประเทศสหรัฐอเมริกาไปให้กับประเทศจีนนั่นเอง ซึ่งในฐานะคู่แข่งทางเศรษฐกิจนั้นได้กลายเป็นเรื่อใหญ่อย่างมาก โดยก่อนหน้านี้นั่นทางบริษัทจากจีนก็เคยส่งบุคลากรของตัวเองเพื่อเข้าไปดูงานในประเทศสหรัฐ แต่กลับมีการแอบลักลอบชิ้นส่วนเทคโนโลยีเพื่อนำไปต่อยอดเป็นของตัวเองและโดนจับกุมได้ โดยเหตุการณ์นี้อาจส่งผลต่อรายได้ของบริษัทเทคโนโลยีอย่างทีโมบายไปมากถึงหลายล้านดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว จนกระทั่งในช่วงต้นธันวาคมที่ผ่านมานั้น ทางหัวเหว่ยก็ต้องเกิดข่าวเสียหหายอีกครั้ง เมื่อทางศาสตราจารย์ที่แอบลักลอบชิพขณะไปทำงานที่รัฐเทกซัสอย่างปัวเหมาได้ออกมารับสารภาพถึงข้อหาที่เขากล่าวความเท็จต่อเจ้าหน้าที่ แต่ทว่าในข้อหาที่หนักกว่าอย่างการแอบลักลอบข้อมูลให้แก่ประเทศจีนนั้นกลับถูกปัดตกไปจากศาลในเมืองบรูคลิน ซึ่งจากเดิมนั้นทางปัวเหมาได้โดนแจ้งข้อหาเรื่องการแอบให้ความส่วนมือเพื่อส่งของผิดกฎหมายไปยังประเทศจีนนั่นเอง แม้ว่าตัวเขาจะไม่ได้เปิดเผยชื่อบริษัทก็ตาม แต่กลับมีหลักฐานว่าเจ้าตัวมีความสนิทกับบุคลากรในบริษัทเทคโนโลยีดังจากประเทศจีนอีกด้วย คาดกันว่าทางหัวเหว่ยอาจออกมาปฏิเสธและคงจะตั้งใจผลิตชิพเป็นของตัวเองออกมามากกว่าจะพยายามลักลอบใช้ของผิดกฎหมายจากประเทศสหรัฐอเมริกา ส่วนทางศาสตราจารย์ปัวเหมาก็น่าจะยอมรับโทษจากการรับสารภาพและกลับไปยังประเทศจีนอยู่เช่นเดิม โดยปัจจุบันทางบริษัทเทคโนโลยีนี้ก็กำลังมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทั้งการขายบริษัทลูกอย่างออร์เนอร์ไปเพื่อตัดปัญหาการโดนจำกัดสิทธิจากประเทศสหรัฐอเมริกา รวมถึงการพยายามหาชิพตัวใหม่มาใช้งานนั่นเอง ติดตามข่าวสารอื่น ๆ อีกมากมาย ข่าวสารวงการไอที…